เว็บในเครือของเรา

Your Ad Here Your Ad Here Your Ad Here Your Ad Here
Your Ad Here Your Ad Here Your Ad Here Your Ad Here

วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ชิดาวรรณ

ชิดาวรรณ

หกโมงเช้า.......ชิดาวรรณอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เธอนั่งหวีผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งภายในห้องนอน ตาเหม่อลอย จิตใจหวนคิดคำนึงถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืน สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับนัทและโอ๋ในโรงหนัง(เหตุการณ์ จากตอนที่ 19) อารมณ์ปราถนาบางอย่างค่อยๆคุกรุ่นก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆและเพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย ร่างกายเธอเริ่มมีการตอบสนองโดยธรรมชาติ ขาอ่อนขาวเนียนนวลภายใต้กระโปรงที่ค่อนข้างสั้นเบียดชิดเข้าหากัน ถูไถบดเบียดเหมือนต้องการจะระงับหรือระบายกันแน่นั้น ชิดาวรรณก็ไม่ทราบได้แต่โดยสำนึกลึกๆของเธอเองแล้วเธอทราบว่าเธอต้องการอะไร.....เลือดสาวฉีดพล่านไปทั่วร่างเหมือนต้องการหาทางออก ......แต่ที่ออกมาได้กลับมิใช่เลือด..........
ชิดาวรรณวางหวีลงบนหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ลุกขึ้นระบายลมหายใจออกอย่างอึดอัด....งุ่นง่าน....แล้วเดินออกจากห้องอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายใดๆมากไปกว่าต้องการจะลืมเลือน ละ เลิกสิ่งที่เป็นความต้องการที่ซ้อนซ่อนอยู่ในจิตสำนึกของเธอตอนนี้...........
ชิดาวรรณรู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อหูเธอได้ยินเสียงหวดอะไรบางอย่างดังหวืดหวือ ออกมาจากพุ่มไม้ที่บังอยู่เบื้องหน้า เธอจึงค่อยทราบว่า ตอนนี้เธอเดินมาถึงสนามหลังบ้านแล้ว เมื่อเธอเดินโผล่พ้นออกมาจากพุ่มไม้หนาทึบที่ประดับสวนหลังบังเป็นฉากจนถึงลานสนามหญ้า เธอจึงเห็น ชาตรี ผู้เป็นพ่อกำลังยืนซ้อมมือ หวดวงสวิงอันสวยงาม อยู่ที่สนามหญ้าหลังบ้านนั่นเอง
ชิดาวรรณลืมเรื่องที่หมกมุ่นครุ่นคิดเมื่อสักครู่นี้ไปชั่วขณะ เธอเดินตรงเข้าไปทักทายชาตรี "ว้าว......คุณพ่อคะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ รันนึกว่ายังไม่มีใครตื่นซะอีกนะคะเนี่ย แล้วนี่อารมณ์ไหนคะเนื่ย ถึงมาซ้อมมือแต่เช้าอย่างนี้" เสียงหวานใสดังขึ้นทำให้ชาตรีชะงักวงสวิงไปนิดหนึ่ง แล้วจึงหันมามองลูกสาวคนสวย ก่อนจะยิ้มตอบ
"อ้อ.....รันเองเหรอ ตื่นเช้าจริงนะเรา ก็ไม่ใช่อารมณ์อาไรหรอกลูก คือวันนี้ช่วงบ่ายพ่อมีนัดออกรอบกับพวกๆมีเดิมพันกันนิดหน่อย ก็เลยต้องตื่นตัวไว้มั่ง เดี๋ยวขายหน้าพวกมันแย่เลย เอ.....แล้วตื่นแต่เช้าอย่างนี้วันนี้มีธุระจะออกไปไหนหรือเปล่าเนี่ยลูก ไปดูพ่อตีกอล์ฟมั้ย??"
รันเอียงคออมยิ้มมองหน้าพ่อ
"เอ....เห็นจะไม่ละค่ะ เล่นหนูยังเล่นไม่เป็นเลย จะดูรู้เรื่องเหรอคะ"
ชาตรีหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เอื้อมมือไปตบหัวลูกสาวเบาๆสองสามที
"อยากลองหัดดูมั้ยล่ะพ่อจะสอนให้ กอล์ฟน่ะไม่ยากหรอกลูก ลองดูหน่อยมั้ยล่ะ ถ้าลองแล้วชอบหรือติดใจ เดี๋ยวพ่อซื้ออุปกรณ์ให้ชุดนึงเลยเอ้า ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ อีกอย่างพ่อจะได้มีเพื่อนเล่นด้วย"
ชิดาวรรณมองอย่างไม่แน่ใจ
" ไม่ยากเหรอคะ แต่รันไม่เคยมีทักษะมาก่อนเลยนะคะ กับไอ้กีฬาประเภทนี้ "
ชาตรียื่นส่งไม้กอล์ฟในมือให้
"เอ้า.....เป็นลูกพ่อไม่ต้องกลัว...ลองดูมาเดี๋ยวพ่อจะสอนพื้นฐานคร่าวๆให้.."
ชิดาวรรณรับไม้กอล์ฟไปอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่แล้วชาตรีก็เริ่มอธิบายถึงวิธีการจับไม้ ลักษณะการยืน ฯลฯ.....แต่เมื่อเห็นลูกสาวยังเก้ๆกังๆจับไม้ยังไม่ค่อยจะถูกนัก ชาตรีจึงก้าวไปยืนข้างหลังโอบแขนทั้งสองมาด้านหน้าชิดาวรรณแล้วจับมือลูกสาวทั้งสองพร้อมทั้งอธิบายประกอบถึงลักษณะวิธีจับไม้ที่ถูกต้องรวมไปถึงลักษณะการยืนจากนั้นก็จับมือลูกสาวเป็นไก้ด์ให้ลากวงแขนขึ้นวงสวิงเบื้องต้น ครู่หนึ่งชาตรีก็ถอยออกมา
"เอ้าทีนี้ลองทำเองดูสิรัน ทำอย่างที่พ่อสอนตะกี้ สองสามสี่เที่ยว เดี๋ยวพ่อจะช่วยดูให้.."
ชิดาวรรณรับคำแล้วลองซ้อมท่าทางนั้นดู แต่ชาตรีเห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าลูกสาวยังยืนไม่ถูกต้องเขาจึงเดินหลบไปด้านหลังพร้อมทั้งพร่ำบอกข้อผิดพลาดไปพลาง
"เกือบแล้วรัน เกือบดีแล้ว แต่ลูกยังยืนไม่ถูกต้อง รันต้องเปิดขาให้กว้างกว่านี้อีกลูก ....ยังๆ...ยังไม่พอ ถ่างขาออกไปอีกลูก....นี่ๆ....มันต้องลักษณะนี้ลูก...."
เมื่อเห็นไม่ได้ดั่งใจชาตรีจึง ค้อมตัวลงเอื้อมมือซ้ายไปจับขาซ้ายของชิดาวรรณบริเวณปลีน่องขาวเนียนนั้นไว้โดยจับไว้เป็นขาหลัก ส่วนมือขวาก็จับบริเวณเดียวกันที่ขาขวาของชิดดาวรรณ แล้วถ่างแยกออกจากจุดเดิมไปอีกประมาณ 6-7นิ้วตอนนี้จึงทำให้ขาชิดาวรรณถ่างออกมากขึ้น และด้วยความที่เธอสวมกระโปรงสั้นอยู่ มันจึงทำให้กระโปรงของเธอรั้งร่นสูงขึ้นไปอีก โดยที่ชิดาวรรณมิได้เตรียมตัวมาก่อนเธอจึงมีอาการเหมือนจะล้มคะมำไปด้านหน้า
เธอร้องว้ายขึ้นมาอย่างตกใจนิดหนึ่ง แล้วรีบใช้ไม้กอล์ฟในมิ ค้ำยันพื้นไว้กันไม่ให้ล้ม ประจวบกับที่ชาตรีเงยหน้ามองขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจเมื่อได้ยินเสียงร้อง และอาการเหมือนจะล้มของลูกสาว ลักษณะอาการของชิดาวรรณเหมือนจะโก้งโค้งอวดไรก้นขาวเนียนอยู่กรายๆ และวันนี้ชิดาวรรณใส่กางเกงในแบบ G-String ซะด้วย เนื้อก้นขาวเนียนทั้งก้อน จึงโชว์ออกมาอย่างเต็มที่ เพียงแค่วับๆแวมๆแค่นั้น มันก็ทำให้ชาตรีเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในชั่ววิบตานั้น แต่ชาตรีเองก็พยายามเก็บความรู้สึกนั้นไว้เงียบๆก่อน แล้วจึงลุกขึ้นยืนแล้วถามลูกสาว
"เป็นไงมั่งลูกจะล้มเหรอ....เอาล่ะๆ....ยืนในลักษณะนี้ไว้อย่าเปลี่ยนนะลูก......มาๆเดี๋ยวพ่อจะสอนวิธีจับไม้และขึ้นวงสวิงอีกทีนึง....เอานะ....."
แล้วชาตรีก็เข้าประจำตำแหน่งทางด้านหลังของลูกสาวเขาอีกครั้งเอื้อมือมาข้างหน้าในลักษณะโอบมาทั้งซ้ายขวา ทำให้ตำแหน่งบางส่วนแนบชิดยิ่งขึ้น.......
ชิดาวรรณเริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับด้านหลังเธอหลังจากที่ชาตรีเป็นไก้ด์ให้เธอแกว่งแขนหัดวงสวิงอย่างช้าๆนั้นผ่านไปแล้วสาม สี่เที่ยว...........
ก้นกอยอันงามงอนกลมกลึงได้รูปของชิดาวรรณแม้มันจะซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้าแต่มันก็มิได้หนานัก จึงสามารถรับรู้ถึงสิ่งประหลาดที่กำลังเสียดสีอยู่จากทางด้านหลังนั้นอย่างชัดแจ้งทั้งขนาด ความอุ่นร้อนที่แผ่ซ่านและตำแหน่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าสิ่งประหลาดสิ่งนั้นมันสามารถจะหาที่อันเหมาะสมได้แล้วโดยตอนนี้ตลอดแนวความยาวตามแนวตั้งของตัวมันพาดสนิทอยู่กับร่องก้นของชิดาวรรณได้อย่างแนบสนิทนัก
ความคิดที่ค้างคาในห้วงคำนึงของชิดาวรรณก็หวนหลับมาแจ่มชัดอีกครั้งพร้อม ๆ กับการก้าวเข้ามาของอารมณ์ที่ขาดหายค้างคาไปจากเมื่อตอนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ชิดาวรรณเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่เสียดสีร่องก้นเธอด้วยอารมณ์บางชนิดที่แทรกแซงเข้ามาและทับถมทวีขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มบดบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีให้เลือนหายไปทีละน้อย มือไม้แข้งขาของเธอเริ่มอ่อนล้าหมดแรงลงเรื่อยๆอย่างช่วยไม่ได้ ไม้กอล์ฟที่ประคองอยู่ในมือหลุดร่วงตกลงอยู่เบื้องหน้า......
แต่ใครเล่าจะมีกะใจไปเก็บในเวลาเช่นนี้ แม้ไม้จะหลุดจากมือชิดาวรรณไปแล้วแต่ชาตรีก็ยังจับสองแขนของลูกสาวกวาด-วาดวงสวิงนั้นต่อไปจนถึงจุดสูงสุด หากแต่คราวนี้มันถูกชูให้ยกค้างอยู่เช่นนั้นเหมือนตั้งใจให้ชิดาวรรณอวดโชว์วงแขนร่องรักแร้ขาวผ่องอยู่เช่นนั้น(เธอใส่เสื้อแขนกุด)
ชาตรีผู้ซึ่งตอนนี้ฝังจมูกลงบริเวณหลังเรือนผมนุ่มสลวยจนอัดติดกับต้นคอขาวของลูกสาว กระซิบกระซาบเสียงกระเส่าอย่างแผ่วทุ้มให้ชิดาวรรณยกแขนค้างไว้ในท่านี้ สองมือและนิ้วทั้งสิบไล่ละเป็นปูไต่ลงจากข้อมือของชิดาวรรณลงมาอย่างแผ่วพริ้วละลิ่วล่อง จนสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนถึงขนที่ลุกตั้งชูชันตลอดทั้งลำแขนสองข้างจนลงมาถึงโคนแขน สองมือของชาตรีก็แยกย้ายกันไปปฎิบัติการโดยมือซ้ายวกวูบเข้าหาฐานนมจากทางด้านข้างอย่างจงใจและไม่เจตนาอยู่ในทีแล้วลูบไล้อย่างแผ่วเบาอยู่ ณ.ด้านข้างของฐานเต้าอวบนั้น ส่วนมือขวาชาตรีก็ไล้ปลายนิ้วพริ้ววนอยู่รอบๆและไต่เข้าหาใจกลางวงรักแร้ขาวนวลนั้นอยู่ไปมา........
ชิดาวรรณกัดฟันข่มความเสียวสยิวที่กระพรือโหมซัดสาดเข้าใส่จากการปลุกเร้าของพ่อเธอ อย่างช้า ๆ เต้านมข้างซ้ายถูกเค้นคลึงอย่างผิวแผ่วแขนที่ยกค้างค่อย ๆ ตกลงในจังหวะเดียวกับที่มือขวาของชาตรีก็ไล้ผ่านด้านข้างของลำตัวลูกสาวคนสวยไต่อ้อมสะโพกกลมกลึงละเรื่อยลงหาชายกระโปรงแล้วค่อย ๆ ดึงชายขึ้นอย่างละเมียดความขาวเนียนใต้ร่มผ้าค่อย ๆ ปรากฎอวดท้าทายแสงแดดยามเช้า แรงเค้นคลึงที่เต้าอวบเพิ่มขึ้นตามความกระสัน ยามนี้ชาตรีสัมผัสได้ถึงความนุ่มเนียนโหนกโคกที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำเมือกจากเนินหีของชิดาวรรณ เสียงครางอย่างเสียวกระสันรัญจวนอารมณ์ดังลอดจากไรฟันขาวดั่งไข่มุกของชิดาวรรณอย่างที่เธอไม่อาจสะกดกลั้นรั้งยั้งไว้ได้ และบัดนี้มิได้มีเพียงแค่สองมือเท่านั้นที่ปลุกเร้าบนเรือนร่าง เพราะชาตรีเม้มปากเข้าขบดุนดูดติ่งหูของชิดาวรรณอย่างละมุน และดุ้นอุ่นแข็งที่พาดอยู่กับร่องก้นตอนนี้มันเริ่มขยับโยกลากขึ้นลงตามแนวร่องอย่างช้าๆ มือที่เกาะกุมเนินหีอันฉ่ำเยิ้มก็คลึงไคล้ไล้ลูบสะกิดเขี่ยไปมาด้วยลีลาปลุกเร้าอย่างขมังกามของชาตรี แม้จะกางกั้นด้วยชั้นในอีกตัวแต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความเสียวที่เกิดขึ้นเลย
และอย่างช้าๆชาตรีค่อย ๆ ชักนำให้ชิดาวรรณขยับถอยหลังทีละนิดด้วยลูกล่อลูกชนชั้นอ๋องเพราะเขาแน่แก่ใจอยู่แล้วถึงระดับอารมณ์ของลูกสาวในขณะนี้ ชาตรีถอนริมฝีปากออกจากติ่งหูของชิดาวรรณ น้ำลายเหนียวยืดติดตามปลายลิ้นของเขาออกมาเป็นเส้นสาย การขยับเคลื่อนตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้าแต่มือกลับเร่งคลึงเค้นเขี่ยบี้ทั้งนมทั้งหีของลูกสาวอย่างต่อเนื่องสายตาก็เหลือบแลไปทางด้านหลัง จุดหมายของเขาคือโต๊ะสนามที่อยู่ห่างอีกไม่ถึงเมตร ลิ้นไล้ละเลียดโลมเลียเกลี่ยกวาดไปทั่วซอกคอขาวผ่องพร้อมทั้งไปอุ่นที่กรุ่นออกจากปาก เมื่อถึงหัวไหล่กลมมน ชาตรีงับฟันขบกัดด้วยแรงที่พอดิบพอดี ในความเจ็บแฝงความซ่านเสียวให้แก่ชิดาวรรณจนขนทั่วกายลุกซู่ร่องหีขมิบคายน้ำเมือกออกมาอย่างต่อเนื่อง
"อูยยยย.....อืยยยย์....ซี้ดดดดส์...ยะ.....อย่าค่ะ.....พ่อ.....พ่อขา....พอแล้ว......พอแล้วค่ะพ่อ....ระ....รันเสียว........อืยยยยย์....."
เสียงครวญแผ่วเบาดังลอดออกมาจากปากจิ้มลิ้ม อย่างจับใจความไม่ได้เพราะมันแผ่วเกินไปเหมือนดังอยู่แค่ในลำคอหรือดังอยู่แค่ในจิตสำนึกของเธอแค่นั้นด้วยซ้ำไป
ผ่านไปอย่างเชื่องช้า ชาตรีสะดุดกึกลง เมื่อก้นของเขากระทบเข้ากับขอบโต๊ะสนามนั้นแล้ว ความเร้าอารมณ์อย่างที่สุดของเขาตอนนี้คือการที่ได้เล้าโลมสัมผัสความนวนเนียนแน่นตึงของส่วนสัดเรือนร่างของลูกสาวคนสวยโดยยังมีอาภรณ์ปิดบังอยู่อย่างค่อนข้างสมบูรณ์
แม้กระนั้นมันก็แสดงให้เห็นถึงความเจนจัดในเชิงกามของเขา ด้วยอาการของชิดาวรรณในขณะนี้เป็นสิ่งยืนยัน ความต้องการที่จะได้เห็นเนื้อแท้ของลูกสาวพุ่งประดังขึ้นมาอย่างเหลืออดมันเป็นสิ่งที่กระตุ้นเร้าชาตรีจนแทบระเบิด นี่เป็นเกมส์แห่งความอดทนสำหรับเขาซึ่งชัยชนะอยู่อีกไม่ไกลแล้ว ชาตรีเบี่ยงกายออกมาทางด้านข้างและก้าวออ้อมมายืนอยู่หน้าชิดาวรรณอย่างรวดเร็วโดยที่มือขวายังล้วงบี้เขี่ยเนินหีเปียกชุ่มนั้นอย่างไม่เสียจังหวะ มือซ้ายละจากเต้านมอวบแข็งแฝงแรงดีดสะท้อนนั้นละไล่ตามแผ่นหลังข้ามาบรรจบกับเต้านมข้างขวา ของชิดาวรรณแทนอย่างแนบเนียนเหมือนตะเข็บฟ้าไร้รอยต่อ และดันตัวลูกสาวอีกเล็กน้อยให้ไปอิงพิงอยู่กับขอบโต๊ะสนามนั้นแทน ชิดาวรรณเองในตอนนี้ก็ยังไม่รู้ถึงตำแหน่งการคงอยู่ของพ่อเธอ จวบจนเมื่อ...ปากที่อ้าออกเล็กน้อยเพื่อครวญครางผะแผ่วเสียงระบายความเสียวกระสันของเธอนั้น ถูกประกบปิดด้วยริมฝีปากหนาใหญ่และเนื้อนุ่มแผ่ใหญ่อันไร้กระดูกของลิ้นของชาตรีแทรกเข้ามาอย่างผะแผ่วไล้กวาดไปทั่วโพรงปากของเธออย่างไหลลื่นและเกี่ยวกระหวัดชักนำลิ้นของเธอให้ออกมาละเลงพันรับกัน
เพียงชั่ววิบตาลิ้นของชิดาวรรณก็ถูกดึงดูดชักนำเข้าไปสู่โพรงปากของผู้เป็นพ่อแทนด้วยความช่ำชองชำนาญ
เธอสะดุ้งลืมตาโพรงขึ้นมาเมื่อเริ่มรู้สึกขึงการแทรกเข้ามาของลิ้นชาตรี แต่อย่างต่อเนื่องตามกันมานั้น ชิดาวรรณก็พริ้มตาลงอีกครั้ง ยอมรับความสุขเสียวในรสชาดที่ชาตรี บรรจงป้อนให้เธออย่างสุดฝีมือนั้น ในหัวเธอตอนนี้เวิ้งว้างว่างเปล่า ปล่อยตัวปล่อยใจให้เตลิดไปกับอารมณ์แฝงที่เร้นเร้านั้น เหมือนเรือน้อยเผชิญพายุคลั่งกลางมหาสมุทร ชิดาวรรณรับรู้เพียงแต่ว่าขณะนี้ เธอกำลังจะถึงที่สุดแห่งความอดทนแล้ว โคกหีอวบอูมแอ่นออกรับกับมือประหลาดนั้นอย่างต่อเนื่อง กระดกกระเด้าเข้าหาอย่างไม่ลดละเร็วขึ้น พร้อม ๆ กับเสียงผะแผ่วอู้อี้ที่ดังอยู่แต่ในลำคอนั้นก็ทวีดังมากขึ้นตามมา แต่แล้วชิดาวรรณก็ต้องรู้สึกเหมือนสวรรค์ทอดทิ้งลงโทษอย่างไม่คาดฝัน เมื่อชาตรี หยุดการกระทำทุกอย่างลงอย่างสิ้นเชิงถอนปากออกจากปากเธอชักมือทั้งสองกลับ
ชิดาวรรณเหมือนผวาตื่นจากฝันร้าย เมื่อเสียงหนึ่งร่ำร้องเรียกชื่อเธอ และดังใกล้เข้ามา เอ้หรืออนุชิต น้องชายของเธอนั่นเอง
"พี่รัน.......วู้ววว....พี่รัน...อยู่ไหนครับ โทรศัพท์ครับพี่ นัทโทรมาครับ พี่รันอยู่ไหนคร้าบบ......"
เสียงของเอ้ดังขึ้นเรื่อยและดูเหมือนจะตรงมาทางด้านนี้ซะด้วย ดีแต่ว่า บริเวณที่เธอและพ่อกำลังจะปฏิบัติกามกิจกันอยู่นั้น ถูกบดบังด้วยพุ่มไม้สูงหนาอยู่มากพอสมควร แววตาและสีหน้าชาตรีฉายแววขัดเคืองใจขึ้นวูบหนึ่งแล้วหายวับ รีบผละแแยกตัวออกห่างจากชิดาวรรณ ตรงไปยังไม้กอล์ฟที่ตกอยู่บนพื้นอันนั้น แล้วรีบหยิบขึ้นมาในขณะที่ชิดาวรรณก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าและลูบแต่งผมเผ้าอย่างลวกๆ แล้วอย่างคิดไม่ถึง
"ทางนี้ตาเอ้ พี่รันอยู่ตรงนี้ เค้ามาดูพ่อซ้อมมือน่ะ...มีโทรศัพท์ของรันเหรอ รีบเอามาให้พี่เค้าสิ พ่อก็จะขึ้นไปอาบน้ำแล้วเหมือนกัน"
ชาตรีเดินย้อนกลับมาขยิบตาเป็นสัญญาณให้ชิดาวรรณนิดหนึ่งก็พอดีกับที่ เอ้เดินพ้นพุ่มไม้เข้ามาพอดี ชาตรีเมื่อเดินสวนกับเอ้ เขายกมือขึ้นกำหลวม ๆ แล้วทุบลงไปบนหัวของเอ้ทีนึงอย่างหยอก ๆ แล้วเดินจากไปอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน เอ้หันมองตามพ่อที่เดินจากไปจนร่างลับตาไปกับแนวพุ่มไม้ ยักไหล่นิดนึงแล้วหันกลับมาทางพี่สาว ซึ่งขณะนี้กำลังยืนหน้าแดงกล่ำปานตำลึงสุก เธอยังพูดอะไรไม่ถูกในตอนนี้ เอ้ยื่นส่งโทรศัพท์ให้พี่สาว ชิดาวรรณก้มหน้ายื่นมือไปรับโทรศัพท์ อย่างไม่กล้าสู้สายตาน้องชาย และนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อยู่อย่างนั้น จนเอ้ต้องร้องเตือนขึ้นมา
"อ้าวพี่รันไม่คุยกับนัทล่ะครับ??..."
จบประโยคก็ยืนอมยิ้มดูอาการพี่สาวคนสวยอยู่เงียบ ๆ จริงดังคาด ชิดาวรรณ ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู และกรอกคำพูดลงไปอย่างแผ่ว ๆ
"ค....คะ....รันพูดค่ะ มีอะไรคะนัท...."
แล้วเธอก็ถือหูอยู่อย่างนั้น เหมือนจะตั้งใจฟังเสียงของชายคนรัก จนผ่านไปอีกอึดใจ เอ้จึงทักขึ้นอีกครั้ง
"โถโถโถ......เป็นไปซะได้พี่เรา.....นี่....พี่รัน.....นัทน่ะเค้าวางสายตั้งนานแล้วพี่.....แล้วนั่นพี่รันพูดกับใครอยู่อ้ะ?? เจ้าของระบบโทรศัพท์เหรอพี่"
ชิดาวรรณยิ่งอายหน้าแดงหนักขึ้น เมื่อรู้สึกตัวว่าปล่อยไก่ต่อหน้าน้องชายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เธอเงยหน้าขึ้นแหวใส่น้องชายอย่างไม่จริงจังนัก
"อีตาบ้านี่ แล้วก็ไม่บอกพี่ตั้งแต่แรก.....ไปขึ้นบ้านเถอะเอ้ พี่จะไปอาบน้ำแล้ว เดี๋ยวได้ลงมาหาอะไรทานกัน"
ทั้งคู่จึงเคลื่อนที่ออกกลับเข้าตัวบ้าน ระหว่างทางก่อนจะถึงตัวบ้าน เอ้ก็พูดขึ้นมาอย่างลอย ๆ แต่จงใจให้รันได้ยินโดยเฉพาะ
"ดีนะเนี่ยที่ออกไปทัน ไม่งั้นป่านนี้เลยเถิดไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ พี่รัน.....พี่จะไม่ขอบคุณผมซักคำเลยเหรอครับ เนี่ย ใจร้ายจัง"
ชิดาวรรณสะดุดหยุดเดินอย่างฉับพลัน เธอรู้สึกเหมือนตกลงในหล่มน้ำแข็ง ยืนตัวแข็งอยู่อย่างนั้น จนเอ้เดินอ้อมตัวเธอมายืนอยู่หน้าเธอ ชิดาวรรณตะกุกตะกักถามออกไปแทบไม่เป็นภาษา
"นี่...นี่....เอ้...เอ้...เห็น...เอ๊ย...รู้....อ๊ะ....เอ้พูดถึงเรื่องอะไรน่ะ....."
ยิ่งพูดก็ยิ่งฟ้องความผิดตัวเอง เอ้ยืนอมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ผมเห็นตั้งแต่แรกทั้งหมดเลยแหละ พี่รันไม่ต้องปัดหรอก เดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังก็แล้วกันนะ ผมจะขึ้นไปอาบน้ำละ หิวข้าวแล้ว พี่รันก็ตามมาเร็ว ๆ นะ จะได้กินข้าวพร้อม ๆ กัน อย่าชักช้านะพี่รัน เดี๋ยวเอ้โมโหหิว....คึคึคึ....."
แล้วเอ้ก็เดินเข้าตัวบ้านไปก่อนอย่างไม่สนใจใยดีพี่สาวที่ยืนนิ่งน้ำตาร่วงอย่างเงียบงัน จนอึดใจใหญ่ๆเธอจึงก้าวเข้าบ้านอย่างเซื่องซึมไร้สำนึก จนกลับเข้าไปถึงห้องนอน ชิดาวรรณรีบล็อกประตูแล้วโถมกายลงบนที่นอน ซุกหน้าลงร่ำไห้อย่างเสียใจในความพลาดพลั้งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้

1 ความคิดเห็น: